หลังจากเสริมหน้าอกไปแล้ว ไม่แปลกที่จะเกิดอาการเจ็บขึ้นได้ แต่อาการเจ็บจะมีอาการมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัย 1.วิธีการผ่าตัดแพทย์ผ่าตัดด้วยวิธีแบบไหน ผ่าตัดรุนแรงมาก เนื้อเยื่อก็เจ็บมาก อาการเจ็บหลังผ่าตัดก็สูง ระยะเวลาหายนานเป็นต้น 2.ขนาดซิลิโคนที่ใส่ ถ้าใส่ใหญ่เกินไป เนื้อเยื่อนมก็ถูกขยายมาก อาการเจ็บก็คงอยู่นานกว่าปกติ 3.การดูแลหลังผ่าตัด ถ้าดูแลแผลดี แผลไม่อักเสบ ไม่มีเลือดคั่งหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก การฟื้นตัวก็เร็ว
อาการหลังเสริมอกถ้า”เข้าที่”หมายถึง หายเจ็บ ไม่บวม ไม่ยุบ สามารถทำงานได้ปกติ รูปทรงหน้าอกอยู่ตัว ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 1-2เดือน ซึ่งแต่ละคนอาจจะเร็วหรือช้าต่างกัน
หลังเสริมหน้าอก สามารถทำกิจวัตรประจำวันพื้นฐานได้ทันที เช่น ทานอาหาร ลุกเดิน สำหรับไปทำงาน ต้องขึ้นกับว่า งาน ลักษณะใด ถ้าเป็นงานเบาๆนั่งโต๊ะเขียนเอกสาร 3-4วันสามารถทำงานได้เลย แต่หากเป็นงานที่ต้องใช้แรงแขนมาก เช่น แม่ครัว แอร์ สปา ต้องยกของหนัก แนะนำ2-3อาทิตย์หลังเสริมหน้าอก
ในอดีตหรือบางคลินิกในปัจจุบัน การผ่าตัดหน้าอก จะใช้เครื่องมือผ่าตัดแบบคว้านเนื้อ ทำให้เนื้อเยื่อบอบช้ำมาก เลือดออกมาก เกิดเป็นเลือดคั่งอยู่ในหน้าอก ซึ่งจะทำให้หน้าอกบวมมาก ปวดมาก พอเลือดเหล่านี้สลายไปก็จะทำให้หน้าอกยุบลงอย่างมาก จึงเกิดเป็นความเชื่อที่ว่า ใส่ใหญ่ๆไว้ก่อนเดี๋ยวก็ยุบ ที่จาเรมคลินิก คุณหมอผ่าตัดโดยใช้เลเซอร์ห้ามเลือด ผ่าตัดชั้นเนื้อเยื่ออย่างพิถีพิถัน ทำช่องว่างในเนื้อหน้าอกพอดีกับซิลโคนที่เลือก ดังนั้นจึงไม่มีเลือดคั่งและยุบไม่มาก
อาหารเสริมใดๆควรงดก่อนมาเสริมหน้าอก แต่ถ้าเสริมหน้าอกไปแล้วสามารถทานได้เป็นปกติ แต่คอลลาเจน มีบางรายงานทางการแพทย์ว่าทำให้เกิดพังผืด แต่หลักฐานยังไม่แน่ชัด ทางที่ดีควรงดไปเลยหรือรอหลังผ่าตัด 3เดือนขึ้นไป
การนอนตะแคงหากหน้าอกยังไม่เข้าที่ จะทำให้มีอาการเจ็บ และการนอนตะแคงนานจะทำให้เกิดแรงดันต่อซิลิโคน ถ้าเสริมซิลิโคนแบบ “เหนือกล้ามเนื้อ” อาจทำให้ซิลิโคนพลิกได้ จึงแนะนำให้ใส่ Post-op Bra ล็อกนมไว้ตลอดการนอนในช่วง1-2เดือนแรก และควรใส่ Post-opบราไว้ตลอดแม้ในช่วงเวลาปกติด้วย
เสริมหน้าอกไม่จำเป็นต้องนวด แต่ส่วนตัวหมอหลุยส์Jaremclinic แนะนำให้นวดหลัง 2-3สัปดาห์ไปแล้ว เพื่อให้เนื้อเยื่อเข้าที่ ระบายระบบเลือดน้ำเหลือง และทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ไม่จำเป็นต้องไปนวดที่ร้านนวดนม เพราะมีหลายร้านนวดนมที่ใช้วิธีนวดผิดๆ รุนแรงเกินไป เสี่ยงทำให้ซิลิโคนแตกได้
ถ้าเสริมหน้าอกไปแล้วเป็นระยะเวลาหนึ่ง หน้าอกเข้าที่ดีแล้ว สามารถอบซาวน่าได้เป็นปกติ
การตรวจแมมโมแกรม (Mammogram)คือ การตรวจหามะเร็งเต้านม โดยอุปกรณ์เอกซเรย์นี้ ตรวจโดยให้เราเอานมของเราวางบนเครื่องมือ บีบนมให้แนบกับถาดแล้วจึงแปลผลได้ ดังนั้นหากเสริมหน้าอกไปแล้ว จึงเป็นการยากในการตรวจ แมมโมแกรม แต่ถ้าต้องการตรวจมะเร็งเต้านม ก็ยังมีอีกหลายวิธี เช่น อัลตราซาวน์ CT scan MRIเป็นต้น หรือ ตรวจแมมโมแกรมให้เสร็จก่อนมาเสริมหน้าอก
ผลตรวจเลือดใดๆขึ้นอยู่กับแพทย์ศัลยกรรม และวิสัญญีแพทย์ แต่พื้นฐานจะมี CBC Anti-HIV เพื่อดูเม็ดเลือด เกร็ดเลือด ทั้งนี้ก็มีบางคลินิกที่ไม่ตรวจอะไรเลย ถือว่าเป็นความประมาทและอาจทำให้เกิดอันตรายต่อคนไข้และบุคลากรของตัวเอง
ซิลิโคนเสริมหน้าอก ปัจจุบันมาถึง Generation V ถือว่าเป็นซิลิโคนที่มีมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็น ซิลิโคน mentor motiva ก็ได้ FDAทั้งของประเทศไทย และต่างประเทศ จึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน สามารถใช้ได้ตลอดชีวิต
อาการหลังเสริมหน้าอกในบางคนในบางคลินิกจะบวมมากแลยุบเยอะ ความจริงมีสาเหตุจากการผ่าตัดที่รุนแรง มีเลือดคั่งเยอะ เวลาผ่านไปเลือดถูกดูดซึมหรือแห้งไป (สามารถกลายเป็นพังผืดในภายหลัง) ทำให้ยุบลง ดังนั้นคำถามนี้คงต้องขึ้นอยู่กับ คลินิกที่ผ่าตัดเสริมหน้าอกนั้นๆที่เราผ่าตัด
ไม่ควรบีบแรง จนกว่าจะเข้าที่ 2-3เดือน หลังจากนั้นสามารถบีบได้แรงพอประมาณแต่ไม่ควรบีบแรงจนเจ็บ
ไม่ว่าซิลิโคนทรงกลม หรือ ทรงหยดน้ำ ไม่จำเป็นต้องนวดจริงจัง แต่แนะนำให้นวดเบาๆเป็นกิจวัตร เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
แผลเสริมหน้าอกมี 3ตำแหน่ง ได้แก่ 1.รักแร้ 2.ปานนม 3.ใต้ราวนม แต่ละตำแหน่ง มีข้อดีข้อเสีย แตกต่างกันไป
เสริมหน้าอกแบ่งได้หลายแบบขึ้นอยู่กับวิธีว่าต้องการดูจากอะไร แผล ซิลิโคน ส่องกล้อง ใช้ไขมันตัวเอง ฯลฯ อาจจะแบ่งง่ายๆ ผ่า"เหนือ" หรือ "ใต้กล้ามเนื้อ"เป็นต้น
เสริมหน้าอกสามารถมีลูก ให้นมบุตรได้ตามปกติ แต่หากใส่ขนาดใหญ่เกินไปอาจทำให้ช่วงเวลาให้นมบุตรนมมีอาการคัดตึงมากกว่าปกติ
ก้อน Cyst สามารถพบได้ในเนื้อนม ผู้หญิงทุกคน ก้อนCyst ก็สามารถแบ่งได้ว่าเป็น ชนิดไม่อันตราย มีความเสี่ยง หรือ อาจเป็นเนื้อร้าย แนะนำก่อนเสริมหน้าอกให้ตรวจแมมโมแกรม หรือตรวจชิ้นเนื้อก่อน ถ้าเป็นชนิดไม่อันตรายสามารถเสริมหน้าอกได้
เสริมหน้าอก อยู่ได้ตลอดชีวิต ถ้าใช้ซิลิโคนมีมาตรฐาน ติดตามอาการกับศัลยแพทย์อย่างต่อเนื่อง
สามารถเสริมได้ตั้งแต่อายุ 20ปีขึ้นไป แต่ถ้าอายุมากเกิน 50ปีต้องตรวจโรคประจำตัว ตรวจสุขภาพอย่างละเอียด เพราะเสริมหน้าอก เป็นการผ่าตัดใหญ่อย่างหนึ่ง
บุหรี่ ทางการแพทย์ได้วิจัยออกมาแล้วว่ามีผลต่อการสมานตัวของแผลผ่าตัด ดังนั้นควรงดก่อนและหลังผ่าตัดให้นานที่สุด
บทความเพิ่มเติม
ติดต่อสอบถามได้ตามช่องทางนี้ค่ะ