แก้ไขหน้าอก

ปัญหาหลังทำหน้าอกมีอะไรบ้าง? พร้อมวิธีแก้หน้าอกให้ทรงกลับมาสวย

ปัญหาหลังทำหน้าอกมีอะไรบ้าง? พร้อมวิธีแก้หน้าอกให้ทรงกลับมาสวย

การศัลยกรรมหน้าอก เป็นการศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กับการศัลยกรรมอื่นๆ เลย เพราะว่าเป็นการศัลยกรรมที่สามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจมากขึ้นได้ แต่หลังจากการทำหน้าอกนั้นอาจจะมีผลข้างเคียง หรือปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับการเสริมหน้าอกขึ้นได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับวิธีการทำหน้าอก ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของแพทย์ และสภาพร่างกายของคนไข้ ในบทความนี้จึงจะพาทุกคนไปรู้จักกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้หลังทำหน้าอก และวิธีแก้หน้าอกให้กลับมาสวยงามดังเดิม

คลิกเพื่อเลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ

การแก้ไขหน้าอก คืออะไร

การแก้ไขหน้าอก คืออะไร

การแก้หน้าอก หรือแก้นม คือการศัลยกรรมแก้ไขหน้าอกที่สามารถเกิดขึ้นได้หลังจากทำการศัลยกรรมเสริมหน้าอก เช่น หน้าอกแข็งเกินไป รูปทรงของหน้าอกไม่สวย ขนาดของหน้าอกไม่ตรงกับความต้องการ หน้าอกเป็นลอน หน้าอกหย่อนคล้อย ซิลิโคนพลิก หรือซิลิโคนเป็นพังผืด เป็นต้น โดยการศัลยกรรมแก้ไขหน้าอกนั้นแพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้หน้าอกกลับมาสวยตรงความต้องการ ซึ่งจะแตกต่างจากการเสริมหน้าอกตรงที่จะเป็นการผ่าตัด เพื่อปรับขนาดหน้าอก หรือปรับรูปทรงให้ดูสวยงามมากขึ้นนั่นเอง

ทำไมต้องแก้ไขหน้าอก

ทำไมต้องแก้ไขหน้าอก

สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากการทำศัลยกรรมหน้าอกนั้นสามารถส่งผลกระทบต่อตัวคนไข้ได้หลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านความสวยงาม ด้านสุขภาพ หรือด้านอื่นๆ โดยเหตุผลที่ว่าทำไมจะต้องแก้ไขหน้าอกหลังจากที่ทำการศัลยกรรมหน้าอก มีดังนี้

  • ขนาดหน้าอกไม่พอดี เกิดจากการที่เสริมหน้าอกแล้วมีขนาดใหญ่เกินไป และต้องการลดขนาดให้เล็กลง เพื่อให้เหมาะสมกับรูปร่าง และดูสวยงามมากขึ้น
  • หน้าอกดูไม่เป็นธรรมชาติ เกิดจากการที่เสริมหน้าอกแล้วดูไม่เป็นธรรมชาติ เช่น ขนาดใหญ่ไป หน้าอกดูแข็ง หรือซิลิโคนมีความผิดปกติ
  • ปัญหาสุขภาพ เกิดจากการที่เสริมหน้าอกแล้วเกิดผลข้างเคียงทางสุขภาพตามมา เช่น ปวดหลัง ปวดบ่าไหล่ หรือปวดกล้ามเนื้อ เป็นต้น
  • รูปทรงหน้าอกผิดปกติ เกิดจากการเสริมหน้าอกแล้วรูปทรงหน้าอกมีความผิดปกติ เช่น นมห่าง นมแฝด นมสูง หรือนมหย่อนคล้อย เป็นต้น
  • ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เกิดจากการเสริมหน้าอกแล้วมีภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ตามมา เช่น เกิดการอักเสบ หรือเกิดการติดเชื้อ เป็นต้น

ปัญหาขนาดและรูปทรงหน้าอก

ปัญหาขนาดและรูปทรงหน้าอกที่มีลักษณะไม่เท่ากัน ใหญ่เกินไป หรือรูปทรงไม่สวย สามารถส่งผลให้ผู้ที่มีปัญหานี้เกิดอาการปวดหลัง ปวดบ่าไหล่ หรือปวดกล้ามเนื้อได้ง่าย รวมถึงอาจทำให้รู้สึกไม่มั่นใจได้อีกด้วย โดยสาเหตุของปัญหาขนาดและรูปทรงหน้าอก มีวิธีแก้ไขหน้าอกในปัญหาดังกล่าว ดังนี้

สาเหตุของปัญหาขนาดและรูปทรงหน้าอก

สาเหตุของปัญหาขนาดและรูปทรงหน้าอกนั้นมีหลายสาเหตุ โดยแต่ละสาเหตุนั้นก็เกิดจากปัจจัยที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • หน้าอกไม่เท่ากัน เกิดจากการที่ขนาดหน้าอกทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากันตามธรรมชาติ และเมื่อทำการศัลยกรรมเสริมหน้าอก ก็จะทำให้เห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่าหน้าอกทั้ง 2 ข้างนั้นไม่เท่ากัน รวมถึงอาจเกิดจากการที่ซิลิโคนมีการเคลื่อนตัว ส่งผลให้หน้าอกดูไม่เท่ากันตามไปด้วยนั่นเอง
  • รูปทรงหน้าอกไม่สวย เกิดจากความพึงพอใจของแต่ละคน เช่น ก่อนเสริมหน้าอกอาจจะมีผลลัพธ์ที่คาดหวังไว้ว่าหน้าอกตัวเองหลังจากทำศัลยกรรมนั้นจะต้องออกมาเป็นแบบที่คาดหวังไว้ แต่เมื่อเสริมหน้าอกแล้วไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง โดยอาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้รู้สึกว่ารูปทรงหน้าอกไม่สวยเท่าที่ควร
  • ขนาดหน้าอกใหญ่เกินสรีระร่างกาย เป็นสาเหตุที่เกิดจากการศัลยกรรมหน้าอกให้มีขนาดใหญ่เกินไป อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงทางสุขภาพตามมา เช่น ปวดหลัง ปวดบ่าไหล่ ปวดคอ หรือปวดกล้ามเนื้อ เป็นต้น เพราะว่าขนาดหน้าอกมีน้ำหนักมากเกินกว่าที่ร่างกายจะรับไหว ส่งผลให้เกิดการดึงรั้งจนเป็นปัญหาสุขภาพตามมา

วิธีแก้ปัญหาตามลักษณะหน้าอก

สำหรับวิธีแก้หน้าอกของปัญหาขนาดและรูปทรงหน้าอก มีดังนี้

  • หน้าอกอยู่ในระดับไม่เท่ากัน จะใช้วิธีแก้หน้าอกด้วยการปรับตำแหน่งหน้าอกด้วยการเย็บ เพื่อให้หน้าอกมาอยู่ในระดับเดียวกัน แต่ถ้าหากหน้าอกอยู่ในระดับสูงเกินไป แพทย์จะทำการเลาะราวนมลงมา เพื่อให้หน้าอยู่ในระดับเท่ากัน
  • หน้าอกมีความห่างเกินไป จะใช้วิธีแก้นมห่างด้วยการจัดวางซิลิโคนให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง เพื่อให้เต้านมมีความชิดกันมากขึ้น รวมถึงอาจจะมีการแก้หัวนมสั้น หรือแก้หัวนมแตกร่วมด้วย
  • หน้าอกมีขนาดใหญ่เกินไป จะใช้วิธีแก้หน้าอกด้วยการปรับขนาดซิลิโคนให้เล็กลง เพื่อช่วยแก้หน้าอกให้เล็กลง และส่งผลให้อาการปวดหลัง ปวดคอ บ่า ไหล่ หรือปวดกล้ามเนื้อจากขนาดหน้าอกที่ใหญ่เกินไปลดลงตามไปด้วย
ปัญหาหน้าอกแข็งเกินไป

ปัญหาหน้าอกแข็งเกินไป

ปัญหาหน้าอกแข็งเกินไป เป็นปัญหาที่มีลักษณะของหน้าอกที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ หน้าอกดูเป็นทรงตามบล็อกของซิลิโคน และเมื่อสัมผัสมีความแข็งกระด้างมากกว่าปกติ อาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงต่างๆ ตามมาได้ เช่น หน้าอกเป็นพังผืด รู้สึกเจ็บบริเวณหน้าอก หรือหน้าอกเกิดมีลักษณะผิดรูปได้ โดยสาเหตุของปัญหาหน้าอกแข็งเกินไป และวิธีแก้ไขหน้าอกในลักษณะดังกล่าว มีดังนี้

สาเหตุของปัญหาหน้าอกแข็ง

สาเหตุของปัญหาหน้าอกแข็งนั้นมีหลายสาเหตุ โดยแต่ละสาเหตุนั้นก็เกิดจากปัจจัยที่แตกต่างกัน ดังนี้ 

  • การผ่าตัด เป็นสาเหตุที่เกิดจากการผ่าตัด ที่จะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของแพทย์ ถ้าหากได้รับการผ่าตัดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์น้อย หรือไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจทำให้เกิดปัญหาหน้าอกแข็งได้
  • การหยุดเลือดหลังผ่าตัด เป็นสาเหตุที่เกิดจากการหยุดเลือดหลังผ่าตัด หากมีการหยุดเลือดไม่ดี อาจทำให้เกิดเลือดคั่งค้าง กลายเป็นก้อนเลือด จนเกิดอาการปวด บวม เขียวช้ำ หน้าอกมีขนาดผิดปกติ และหน้าอกแข็งได้
  • การติดเชื้อ เป็นสาเหตุที่เกิดจากการติดเชื้อหลังจากเสริมหน้าอก ที่สามารถส่งผลให้เกิดอาการหน้าอกแข็ง ซึ่งอาจมีอาการเป็นผื่นแดง ปวด บวม หรือช้ำ รวมถึงอาจทำให้หน้าอกเป็นริ้ว หรือคลื่นได้
  • ขนาดของซิลิโคน เป็นสาเหตุที่เกิดจากการที่เสริมหน้าอกแล้วใช้ซิลิโคนขนาดใหญ่เกินไป ทำให้รูปทรงของหน้าอกนั้นดูไม่เป็นธรรมชาติ และทำให้หน้าอกแข็งกว่าปกติ

วิธีแก้ปัญหาตามลักษณะหน้าอก

สำหรับวิธีแก้ไขปัญหาหน้าอกแข็งนั้น จะต้องทำการนวดหน้าอกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้หน้าอกเกิดพังผืด และช่วยให้ซิลิโคนมีความนิ่มขึ้น ทำให้หน้าอกดูไม่แข็ง และเป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่ถ้าหากในกรณีที่มีการติดเชื้อ หรือมีอาการข้างเคียงอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวด เขียว หรือช้ำ ควรรีบพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาอย่างตรงจุด

ปัญหาอกแฝดหรือนมแฝด

ปัญหาอกแฝดหรือนมแฝด

ปัญหาอกแฝด หรือนมแฝด (Symmastia) เป็นปัญหาที่ลักษณะของเต้านมทั้ง 2 ข้างนั้นมีความชิดกันมากเกินไป ร่องอกระหว่างเต้านมทั้ง 2 ข้างนั้นหายไป และตำแหน่งของหัวนมมีการเคลื่อนที่ไปจากเดิม ทำให้ดูเหมือนเต้านมจะรวมเป็นเต้าเดียวกัน อาจส่งผลให้รูปทรงเต้านมดูไม่สวยงาม และทำให้ผู้ที่มีปัญหานี้รู้สึกไม่มั่นใจได้

สาเหตุของปัญหาอกแฝดหรือนมแฝด

สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาอกแฝด หรือนมแฝดนั้น มักเกิดจากการที่ในระหว่างการผ่าตัดมีการเลาะแกนกลางหน้าอกมากเกินไป จนทำให้เนื้อเยื่อแกนกลางหน้าอกที่เชื่อมกับกระดูกซี่โครงถูกทำลาย ส่งผลให้เมื่อใส่ซิลิโคนเข้าไป หน้าอกทั้ง 2 ข้างก็จะเกิดการชิดกัน หรือเชื่อมต่อกันไปเลย โดยมักจะพบได้บ่อยในผู้ที่ใช้ซิลิโคนขนาดใหญ่มากเกินไป

วิธีแก้ปัญหาตามลักษณะหน้าอก

สำหรับวิธีแก้ปัญหาหน้าอกแฝด หรือนมแฝดนั้น จะต้องเลือกใช้ซิลิโคนที่มีขนาดเหมาะสม และไม่ใหญ่เกินไป โดยทำการเปิดช่องว่างซิลิโคนเดิมด้วยการเย็บปิด เพื่อให้ช่องว่างระหว่างหน้าอกทั้ง 2 ข้างมีมากขึ้น

ปัญหาหน้าอกเป็นลอนหรือริ้ว

ปัญหาหน้าอกเป็นลอนหรือริ้ว

ปัญหาหน้าอกเป็นลอน หรือเป็นริ้ว เป็นปัญหาที่ลักษณะของเต้านมจะมีรอยย่น ริ้วคลื่นขรุขระ หรือเป็นลอน 2 ชั้น ทำให้เห็นขอบซิลิโคนอย่างชัดเจน ทำให้สัมผัสได้ถึงความไม่เรียบเนียน และความขรุขระที่บริเวณผิวของหน้าอก ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นหลังจากทำการศัลยกรรมเสริมหน้าอกไปสักระยะ

สาเหตุของปัญหาหน้าอกเป็นลอนหรือริ้ว

สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาหน้าอกเป็นลอน หรือเป็นริ้วนั้น มักเกิดจากการที่เลือกใช้ซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่กว่าฐานเต้านม และเมื่อใส่ซิลิโคนเข้าไปก็จะทำให้เกิดการแยกออกเป็นชั้นระหว่างฐานเต้านม และตัวซิลิโคน ส่งผลให้เต้านมมีลักษณะเป็นลอน หรือเป็นริ้วตามไปด้วยนั่นเอง

วิธีแก้ปัญหาตามลักษณะหน้าอก

สำหรับวิธีแก้หน้าอกเป็นลอน หรือเป็นริ้วนั้น จะต้องเลือกใช้ซิลิโคนที่มีขนาดเหมาะสม และถ้าเป็นในกรณีที่แก้ไขหน้าอกหลังจากเสริมไปแล้ว จะต้องทำการผ่าตัดนำซิลิโคนเดิมออก และใส่ซิลิโคนที่มีขนาดเล็กลงเข้าไปแทนที่

ปัญหาเต้านมหย่อนคล้อย

ปัญหาเต้านมหย่อนคล้อย

ปัญหาเต้านมหย่อนคล้อย เป็นปัญหาที่รูปทรงของหน้าอกมีการเปลี่ยนแปลงหลังจากช่วงแรกของการทำศัลยกรรมหน้าอก โดยจะมีความหย่อนคล้อย หรือหย่อนยานมากกว่าปกติ ซึ่งในบางคนอาจจะมีความหย่อนคล้อยมากเกินไป จนทำให้ขาดความสวยงาม หรือขาดความมั่นใจได้

สาเหตุของปัญหาเต้านมหย่อนคล้อย

สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาเต้านมหย่อนคล้อยนั้น เกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นอายุที่เพิ่มมากขึ้น ขนาดของซิลิโคนที่ไม่เหมาะสม การลดน้ำหนัก หรือการไม่สวมใส่ชุดชั้นใน ที่ล้วนแต่เป็นเหตุผลที่ส่งผลให้เนื้อเต้านมเหลว และทำให้นมหย่อนคล้อยได้

วิธีแก้ปัญหาตามลักษณะหน้าอก

สำหรับวิธีแก้หน้าอกหย่อนคล้อย หรือแก้นมยานนั้น จะต้องทำการตัดเนื้อบริเวณหน้าอกที่เป็นส่วนเกินออก และใส่ซิลิโคนใหม่ที่มีขนาดและรูปทรงที่เหมาะสมเข้าไป รวมถึงอาจมีการแก้ตำแหน่งหัวนม และปานนมใหม่ร่วมด้วย

ปัญหาซิลิโคนพลิก

ปัญหาซิลิโคนพลิก

ปัญหาซิลิโคนพลิก เป็นปัญหาที่หน้าอกมีลักษณะผิดรูป หรือมีการเปลี่ยนแปลงไปหลังจากศัลยกรรม อาจเกิดจากการที่ซิลิโคนมีการเคลื่อนที่มากเกินไปจนพลิกกลับด้าน ส่งผลให้เต้านมทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากัน และส่งผลให้สามารถเห็นขอบซิลิโคนได้อย่างชัดเจน

สาเหตุของปัญหาซิลิโคนพลิก

สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาซิลิโคนพลิกนั้น มักเกิดจากการที่มีการเลาะโพรงหน้าอกขนาดใหญ่กว่าขนาดของซิลิโคน ทำให้ซิลิโคนมีพื้นที่ที่จะเคลื่อนไหว และเกิดการพลิกตัวได้ง่าย รวมถึงอาจเกิดจากการที่นวดเต้านมหลังจากเสริมหน้าอกแรงเกินไป หรือนวดผิดวิธี และหน้าอกหย่อนคล้อยจากการมีบุตร ส่งผลให้ซิลิโคนเคลื่อนตัวได้ง่ายมากขึ้น

วิธีแก้ปัญหาตามลักษณะหน้าอก

สำหรับวิธีแก้ปัญหาซิลิโคนพลิกนั้น จะต้องทำการนวดหน้าอกโดยแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ซิลิโคนพลิกกลับมาในด้านเดิม หรืออาจจะทำการผ่าตัดเปลี่ยนซิลิโคนให้พอดี หรือผ่าตัดยกกระชับหน้าอกใ่ห้ซิลิโคนมีขนาดเหมาะสมมากขึ้น

ปัญหาพังผืดรอบซิลิโคน

ปัญหาพังผืดรอบซิลิโคน

ปัญหาพังผืดรอบซิลิโคน เป็นปัญหาที่ลักษณะของหน้าอกมีการเกิดพังผืดในบริเวณรอบซิลิโคน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ ถ้าหากมีการสร้างชั้นบางๆ ก็จะทำให้เต้านมดูมีความเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าหากมีการสร้างเป็นพังผืดหนา อาจทำให้รู้สึกเจ็บ หรือปวดบริเวณเต้านม รวมถึงอาจทำให้เต้านมดูแข็ง ผิดรูปร่าง หรือเต้านมเป็นก้อนได้

สาเหตุของปัญหาพังผืดรอบซิลิโคน

สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาพังผืดรอบซิลิโคนนั้น เกิดจากการที่ร่างกายมีการสร้างพังผืดขึ้นมาหุ้มรอบสิ่งแปลกปลอมอย่างซิลิโคน และเมื่อเวลาผ่านไปก็จะทำให้พังผืดมีการหดตัว หรือแข็งตัวจนส่งผลกระทบต่างๆ ตามมาได้

วิธีแก้ปัญหาตามลักษณะหน้าอก

สำหรับวิธีแก้หน้าอกของปัญหาพังผืดรอบซิลิโคนนั้น จะต้องทำการนวดคลึงเต้านมหลังศัลยกรรมอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดพังผืดหนา แต่ถ้าหากเกิดปัญหาพังผืดแบบที่ไม่สามารถนวดแก้ได้แล้ว ก็จะต้องทำการเข้ารับการผ่าตัดเลาะพังผืด นำซิลิโคนเก่าออก และทำการใส่ซิลิโคนใหม่เข้าแทนที่

ปัญหาซิลิโคนทะลุ

ปัญหาซิลิโคนทะลุ

ปัญหาซิลิโคนทะลุ เป็นปัญหาที่หน้าอกมีซิลิโคนทะลุออกมา สามารถสังเกตได้จากการที่แผลเริ่มปริจนเห็นซิลิโคนด้านใน และแผลก็จะค่อยๆ เริ่มขยายใหญ่เป็นวงกว้างมากขึ้น ซึ่งจะพบได้หลังจากที่ศัลยกรรมหน้าอกไปสักระยะหนึ่ง

สาเหตุของปัญหาซิลิโคนพลิก

สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาซิลิโคนทะลุนั้น มักจะเกิดจากการที่เสริมหน้าอกในขนาดที่ใหญ่เกินไป แพทย์ผู้ผ่าตัดเย็บเนื้อชั้นเต้านมไม่ดี หรือออกกำลังกายหลังจากศัลยกรรมหน้าอกเร็วเกินไป จนทำให้แผลผ่าตัดเกิดการปริได้ง่าย

วิธีแก้ปัญหาตามลักษณะหน้าอก

สำหรับวิธีแก้หน้าอกของปัญหาซิลิโคนทะลุนั้น จะต้องทำการถอดซิลิโคนออกมา และพักฟื้นไปสักระยะก่อน เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟู แล้วจึงค่อยทำการเสริมหน้าอกใหม่อีกครั้ง รวมถึงจะต้องเลือกใช้ขนาดซิลิโคนให้มีขนาดเล็กลง และงดออกกำลังกายในช่วงแรกหลังจากเสริมหน้าอกด้วย

ปัญหาซิลิโคนรั่วหรือแตก

ปัญหาซิลิโคนรั่วหรือแตก

ปัญหาซิลิโคนรั่ว หรือซิลิโคนแตก เป็นปัญหาที่มีลักษณะของหน้าอกด้านใดด้านหนึ่งเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะว่าซิลิโคนเกิดการรั่ว หรือแตกอยู่ภายใน และอาจส่งผลให้เกิดก้อนแข็งๆ ภายในหน้าอก มีอาการแสบร้อน หรือเจ็บบริเวณเต้านม มีอาการชา หรือไวต่อความรู้สึกมากกว่าปกติ

สาเหตุของปัญหาซิลิโคนรั่วหรือแตก

สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาซิลิโคนรั่ว หรือซิลิโคนแตกนั้น สามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการรั่วของเปลือกหุ้มผิวซิลิโคน ซิลิโคนไม่ได้คุณภาพ และไม่มีมาตรฐาน ได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง หรือเกิดพังผืดที่บริเวณเต้านมมากเกินไป

วิธีแก้ปัญหาตามลักษณะหน้าอก

สำหรับวิธีแก้หน้าอกของปัญหาซิลิโคนรั่ว หรือซิลิโคนแตกนั้น มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น คือการผ่าตัด และนำซิลิโคนเดิมออก จากนั้นนำซิลิโคนใหม่เข้าไปแทนที่ เพราะซิลิโคนเดิมไม่สามารถใช้งานได้แล้ว

เว้นระยะการศัลยกรรมแก้ไขหน้าอกเท่าไร

เว้นระยะการศัลยกรรมแก้ไขหน้าอกเท่าไร

สำหรับผู้ที่ทำการศัลยกรรมหน้าอก และต้องการผ่าตัดแก้หน้าอก ต้องทำการเว้นระยะจากการผ่าตัดครั้งก่อนหน้าอย่างน้อย 6-12 เดือน เพื่อให้แผลผ่าตัดเกิดการสมานกันให้เรียบร้อยก่อน และให้ร่างกายได้รับการฟื้นฟูให้เป็นปกติก่อน หรือถ้าหากผู้ที่อยากแก้หน้าอกโดยที่หน้าอกไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็สามารถทำได้หลังจากผ่านไปแล้ว 10 ปี เนื่องจากซิลิโคนจะมีอายุประมาณ 10 ปีขึ้นไป หากไม่พบปัญหาอะไรก็สามารถอยู่ได้ตลอดชีวิต

ผ่าตัดแก้ไขหน้าอกได้กี่ครั้ง

การผ่าตัดแก้ไขหน้าอกนั้นสามารถทำได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่ว่าในครั้งต่อๆ ไปอาจจะมีข้อจำกัดมากขึ้น และผ่าตัดยากมากขึ้น เพราะว่ามีพังผืดเกาะซิลิโคนมากขึ้น ทั้งนี้ การแก้ในแต่ละครั้ง ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ด้วย

ผ่าตัดแก้ไขหน้าอก แล้วจะทำให้หน้าอกเหี่ยวหรือไม่

สำหรับการผ่าตัดแก้ไขหน้าอกนั้น อาจทำให้หน้าอกหย่อนคล้อยได้ แต่ก็มีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลให้เกิดการหย่อนคล้อยร่วมด้วย เช่น การลดน้ำหนัก การมีบุตร หรือการเสริมหน้าอกในครั้งก่อน ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัดศัลยกรรมยกกระชับหน้าอก

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดแก้ไขหน้าอก

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดแก้ไขหน้าอก

ก่อนเข้ารับการศัลยกรรมหน้าอก หรือแก้ไขหน้าอกนั้น จะต้องเตรียมตัวก่อน เพื่อให้งานแก้หน้าอกนั้นผ่านไปได้อย่างราบรื่นมากที่สุด โดยวิธีการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดแก้ไขหน้าอก มีดังนี้

  • งดการดื่มน้ำ และรับประทานอาหารก่อนเข้ารับการผ่าตัด 6-8 ชั่วโมง
  • งดอาหารเสริม หรือวิตามินทุกชนิดก่อนเข้ารับการผ่าตัด 1 เดือน
  • งดการสูบบุหรี่ หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด 1 เดือน
  • หากมีโรคประจำตัว หรือมีประวัติการแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเข้ารับการผ่าตัด

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดแก้ไขหน้าอก

หลังจากเข้ารับการศัลยกรรมหน้าอก หรือผ่าตัดแก้หน้าอกแล้ว ควรต้องดูแลตัวเองให้ดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียง และให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้เร็วมากที่สุด โดยวิธีการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดแก้ไขหน้าอก มีดังนี้

  • งดการสูบบุหรี่ หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลังเข้ารับการผ่าตัด 1 เดือน
  • งดการขับขี่ยานพาหนะด้วยตัวเองหลังจากเข้ารับการผ่าตัด
  • งดการออกกำลังกาย หรือการเคลื่อนไหวที่กระทบกระเทือนหลังเข้ารับการผ่าตัด 1 เดือน
  • งดการว่ายน้ำ หรือการแช่น้ำหลังจากเข้ารับการผ่าตัด 1 เดือน
  • นอนหงาย และนอนยกตัวให้สูงหลังจากเข้ารับการผ่าตัด
  • หลีกเลี่ยงการนอนตะแคง หรือนอนคว่ำ
  • หลักเลี่ยงการใส่เสื้อชั้นในแบบมีโครง และใส่เสื้อชั้นในแบบ Support Bra แทน 3 เดือน
  • หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำจนกว่าจะตัดไหม และดูแลแผลให้แห้งอยู่เสมอ

อาการแบบไหนหลังศัลยกรรมหน้าอก ที่เตือนว่าต้องพบแพทย์แล้ว

หลังจากทำการศัลยกรรมหน้าอกแล้ว ควรสำรวจหน้าอกของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เพราะถ้าหากมีความผิดปกติ จะได้ทำการแก้ไขหน้าอกได้อย่างทันท่วงที โดยอาการที่เกิดขึ้นหลังศัลยกรรมหน้าอกที่ควรรีบเข้าพบแพทย์ให้เร็วที่สุด มีดังนี้

  • เต้านมมีความแข็งขึ้นกว่าปกติ
  • เต้านมมีตุ่ม หรือจุดก้อนแข็งๆ
  • บริเวณใต้รักแร้มีก้อนแข็ง
  • มีอาการตึง หรือชาในบริเวณเต้านม
  • มีอาการแสบร้อนบริเวณเต้านม
  • มีอาการแน่นหน้าอก หรือหายใจลำบาก
แก้ไขหน้าอกราคาแพงไหม และควรทำที่ไหนดี? ทำไมควรเลือก Jarem Clinic

แก้ไขหน้าอกราคาแพงไหม และควรทำที่ไหนดี? ทำไมควรเลือก Jarem Clinic

ปัญหาหลังการศัลยกรรมหน้าอกนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ รวมถึงสาเหตุที่เกิดจากศัลยแพทย์ไม่มีความชำนาญ ไม่มีประสบการณ์ หรือคลินิกไม่ได้มาตรฐาน ทำให้คนไข้มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาหลังทำหน้าอกมากขึ้น แต่ถ้าหากไม่อยากแก้ไขหน้าอกบ่อยๆ หรือพบปัญหากวนใจหลังจากการเสริมหน้าอก ควรเลือกคลินิก หรือสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาตสถานพยาบาล มีความสะอาด ปลอดภัย และที่สำคัญ คือมีศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านการเสริมทรวงอก 

โดยที่ Jarem Clinic มีศัลยแพทย์ผู้มากประสบการณ์อย่าง นพ. พลเดช สุวรรณอาภา หรือ “หมอหลุยส์ ที่เป็นหมอศัลยกรรมเฉพาะทางด้านเสริมหน้าอก สำหรับผู้ที่ไม่รู้จะแก้นมที่ไหนดี สนใจอยากเสริมหน้าอกกับทาง Jarem Clinic และสงสัยว่าแก้ไขหน้าอกราคาเท่าไร หรือเสริมหน้าอกมีราคาเท่าไร สามารถตรวจสอบราคา และโปรโมชั่นพิเศษได้ที่ Jarem Clinic Promotion

สำหรับการแก้หน้าอก หรือแก้นมนั้น เป็นการแก้ปัญหาของหน้าอกที่ผ่านการศัลยกรรมเสริมหน้าอกมาแล้ว โดยลักษณะของหน้าอกที่ต้องทำการแก้หน้าอกนั้น ต้องเป็นหน้าอกที่มีปัญหาในเรื่องของขนาด รูปทรง หรือมีปัญหาอื่นๆ เช่น หน้าอกแข็ง หน้าอกเป็นลอนริ้ว หน้าอกแฝด พังผืดรอบซิลิโคน ซิลิโคนพลิก หรือซิลิโคนทะลุ เป็นต้น เพราะถ้าหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายตามมาได้ เช่น อาการติดเชื้อ หรืออาการอักเสบ จนทำให้เกิดอาการปวด บวม แดง เขียวช้ำ หรือเป็นก้อนได้ ดังนั้น หากใครที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับหน้าอก ก็ควรรีบเข้าพบแพทย์ เพื่อเข้ารับการแก้ไขหน้าอกอย่างถูกต้องมากที่สุด

รีวิวของเรา

บทความโดย

นพ. พลเดช สุวรรณอาภา

ศัลยแพทย์ เฉพาะทางเสริมหน้าอก

เสริมหน้าอกมาแล้วหากเกิดปัญหาไม่ต้องกังวล เพราะการศัลยกรรมใดๆก็ตามสามารถเกิดผลข้างเคียงได้  แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาแล้วอย่านิ่งนอนใจ เพราะหน้าอกของเราถ้าได้ตรวจ รักษาแก้ไขใหม่ทันท่วงทีกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หน้าอกก็กลับมาสวยได้ครับ

ศัลยแพทย์เฉพาะทางเสริมหน้าอก นพ. พลเดช สุวรรณอาภา (หมอหลุยส์)

ปรึกษาหรือสอบถามได้ที่

บทความเกี่ยวข้อง