ปัญหาถุงใต้ตาบวม เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุกวัย และเกิดจากหลายสาเหตุ ถึงแม้ปัญหานี้จะไม่ได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพ แต่ก็สร้างความอ่อนล้าให้กับใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย จนหลายคนที่พบเจอกับปัญหานี้เกิดความกังวลใจ ขาดความมั่นใจ หากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานก็อาจทำให้ปัญหานี้ลุกลามจนแก้ไขได้ยากนะคะ และด้วยความที่ผิวหนังบริเวณรอบดวงตาเป็นส่วนที่บอบบางมากๆ เราควรต้องดูแลผิวหนังบริเวณนี้อย่างถูกวิธีด้วยค่ะ
เกิดจากการที่ผนังกั้นเปลือกตาล่างอ่อนแอลงเนื้อเยื่อที่ค่อยพยุงไขมันตาไว้เกิดอ่อนแรง ทำให้ไขมันที่อยู่ในบริเวณตาเกิดการยื่นหรือหย่อนออกมาทำให้เกิดเป็นลักษณะถุงเกิดขึ้น และจะหย่อนมากขึ้นเรื่อยๆตามอายุที่มากขึ้น
วิธีการรักษาถุงใต้ตา การรักษาจะยากขึ้น เพราะการดูแลตัวเองให้ดีก็ไม่สามารถช่วยให้อาการลดลงได้ การรักษามีหลายวิธี ได้แก่
โดยการเก็บไขมันและผิวหนังส่วนเกินออก วิธีนี้จะสามารถช่วยทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลงและดูไม่เหนื่อยล้า โดยวิธีผ่าตัดมี 2 วิธีด้วยกันคือ
ผ่าตัดผ่านทางเยื่อบุตา (transconjunctiva lower blepharoplasty)
เหมาะกับผู้ที่มีไขมันเกินแต่ยังไม่มีผิวใต้ตาหย่อนคล้อย โดยวิธีนี้แพทย์จะผ่าตัดผ่านทางเยื่อบุแผลด้านในตา ข้อดีคือ ไม่มีแผลผ่าตัดบริเวณภายนอก
ผ่าตัดผ่านผิวหนัง (subcutaneous blepharoplasty)
วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มีถุงไขมันใต้ตามากและมีผิวใต้ตาหย่อนคล้อย แผลจะอยู่ชิดกับขอบตาล่าง โดยไม่ว่าจะทำการผ่าตัดด้วยวิธีไหนการนำไขมันออกในปริมาณที่เหมาะสมร่วมกับการย้ายไขมันในตำแหน่งบริเวณใต้ตา เพื่อทำให้ขอบตาล่างดูเต็ม และไม่เป็นร่องลึกใต้ตา ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ใช้รักษากันอยู่ในขณะนี้ ผิวบริเวณตาเป็นจุดที่บอบบางมาก การผ่าตัดจึงต้องอาศัยแพทย์ที่มีความชำนาญสูง
การฉีดสารเติมเต็มไปที่บริเวณร่องใต้ตา (filler)
อาจช่วยได้บ้างแต่ไม่ถาวร อีกทั้งมีความเสี่ยงฉีดเข้าเส้นเลือดตา อาจทำให้ตาบอดได้
การกระชับผิวด้วยเลเซอร์
วิธีเหล่านี้ก็เป็นเพียงวิธีที่ช่วยลดอาการบวมของถุงใต้ตาได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้ช่วยรักษาโดยตรง ถ้าหากในรายที่เป็นมากก็ต้องใช้วิธีการผ่าตัด เพื่อนำไขมัน ของเหลว และผิวหนังส่วนเกินใต้ตาที่หย่อนคล้อยออก ผู้ที่มีปัญหาควรปรึกษากับจักษุแพทย์เฉพาะทาง เพื่อการรักษาที่ปลอดภัยและได้ผลดี
การใช้ครีมทารอบดวงตา
เป็นการช่วยชะลอการหย่อนคล้อยของผิวหนังเท่านั้น ไม่สามารถช่วยลดการหย่อนคล้อยของผิวหนังที่เกิดขึ้นไปแล้ว
การปรับLifestyle การบำรุงดวงตาง่ายๆที่บ้าน
แม้ว่าการผ่าตัดจะเป็นวิธีช่วยรักษาถุงใต้ตา ได้ดี แต่ก็เกิดผลแทรกซ้อนได้เช่นกันได้แก่
1. ขอบตาล่างปลิ้น เกิดจากตัดผิงหนังใต้ตามากเกินไปเกิดการดึงรั้ง ทำให้เห็นขอบตาล่าง ถ้าเป็นไม่มากการนวดคลึงดวงตาสามารถช่วยได้แต่ถ้าหากว่า เป็นมากต้องรักษาโดยนำผิวหน้งส่วนอื่นมาปิดทดแทน
2. แผลเกินขอบตา หากกรีดผิวหนังดึงขอบตาล่างมากเกินไป หรือแพทย์คำนวนการเย็บปิดแผลไม่ดี ทำให้แผลเลยขอบไป เป็นรอยแผลเป็นที่เห็นได้ชัด
3. โดนท่อน้ำตา ภาวะแทรกซ้อนนี้เกิดได้น้อย แต่ก็สามารถพบได้ เป็นภาวะที่รุนแรงบาดเจ็บต่อท่อน้ำตา ทำให้น้ำตาไหลอยู่ตลอด ต้องภาตัดรักษาด้วยวิธี Micro Surgery
ถุงใต้ตา เป็นปัญหาดวงตาเรื่องความสวยงามอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ แม้ว่าดูเหมือนจะสามารถผ่าตัดรักษาได้ง่ายๆ แต่ความจริงแล้วการรักษาด้วยวิธีผ่าตัดเป็นหัตถการที่ยากต้องอาศัยฝีมือ ความละเอียด เพราะผลแทรกซ้อนจากการผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นตาปลิ้น ท่อน้ำตาบาดเจ็บ ก็เป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงมาก ดังนั้นแพทย์จึงต้องมีประสบการณ์ รู้กายวิภาครอบดวงตาอย่างดี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทุกช่องทางเลยค่ะ